เมื่อวันที่ 12 ก.ย.62 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่ าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในระหว่างการประชุมเตรี ยมรับสถานการณ์มรสุมภาคใต้ และให้นโยบายกับศูนย์ป้องกั นและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 ซึ่งประกอบไปด้วย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดชุมพร จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 12 กย 62 ว่าขณะนี้เรากำลังประสบภั ยธรรมชาติ น้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดในภาคตะวั นออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ดังนั้นเรื่องสำคัญที่สุดเมื่ อยามเกิดวิกฤติคือ “ประชาชนต้องปลอดภัยก่อน” ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภั ยและสำนักงานป้องกั นและบรรเทาสาธารณภัยทุกพื้นที่ ต้องเตรียมความพร้อมทุกด้านทั้ งเรื่องคนและอุปกรณ์เครื่องไม้ เครื่องมือ
นายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวต่อว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ คือ น้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็ จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทาน “โรงครัวพระราชทาน” ทุกครั้งเมื่อเกิดวิกฤติต่าง ๆ ขึ้น รวมถึงจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. และทุกภาคส่วนที่ไม่เคยทิ้งกัน โดยเฉพาะหน่วยราชการที่ถือว่ามี บทบาทสำคัญมากในหลายวิกฤติที่ เกิดขึ้น คือ กองทัพ ที่มีความพร้อมด้านบุคลากร และภาคีเครือข่าย ทั้งอาสาสมัครต่าง ซึ่งเราถือเป็นภาคีเครือข่ายทั้ งภาคประชาชน องค์กรการกุศล และทุกองค์กรรัฐ ถือว่ามีส่วนอย่างสำคัญในการเข้ าช่วยเหลือภัยพิบัติต่างๆ
สุดท้าย นายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวว่า จากวิกฤติน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ทำให้เราต้องคิดทบทวนถึ งกระบวนการบริหารจัดการน้ำว่า ก่อนหน้าน้ำท่วม ทุกภาคของประเทศกำลังประสบภั ยแล้ง แล้วก็มาเจอน้ำท่วม ดังนั้น ปภ. ทุกศูนย์ ทุกจังหวัด ต้องเร่งสำรวจพื้นที่ว่าเราจะต้ องจัดหาที่ให้น้ำอยู่ในจุดที่ สามารถกักเก็บน้ำเพื่อใช้ ประโยชน์ได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องเร่งจั ดการเรื่องคูคลองต่างๆ ที่เป็นเส้นทางระบายน้ำให้ สามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในทุ กปี และมีน้ำเก็บไว้ใช้ในหน้าแล้ งได้
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 145/2562
วันที่ 13 ก.ย.2562